กว๊านทิพย์ ภูเขาขะม้อ

ประวัติบุคคล : ดอยขะม้อ เป็นภูเขาอยู่ลูกหนึ่งสัณฐานชันมาก สกนธ์เหมือนนางเลิ้งพลิกคว่ำ คนเมืองเรียกกันมาทว่าเก่าแก่ว่า “ภูเขาคว่ำตุ่ม” ต่อมาเพี้ยนลงมาดำรงฐานะ “ดอยขะม้อ บ่อน้ำทิพย์” สถานที่เรียกหาเช่นนั้นเพราะบนบานศาลกล่าวจอมดอยมีบ่อน้ำเรื่องเดิมกลางๆเมทนี ถือกักคุมลงมาทว่าเก่าตวาดครอบครองแอ่งน้ำทิพย์ ที่บริเวณปากบ่อจักประกอบด้วยบ้ายปักวางตวาด “บริเวณบ่อน้ำทิพย์ห้ามหญิงสาวเข้าไป” ก็เพราะว่าครั้นอิสตรีเข้าไปต่อจากนั้นน้ำในบ่อจะแห้งทันที ยอดภูเขาขะม้โกงีความกว้างประมาณ 12 เมตร ยาว 30 เมตรรายรอบดอยนี้มีเขาสูงศักดิ์ซ้อนกันกักคุมหลายลูกด้วยกันมีพืชพันธุ์ต่างๆอย่างขึ้นชนิดคับคั่ง ด้านบนมีพระสงฆ์พิหารอยู่ในสภาพหลังเอ็ดกับดักรอยรอยพระบาทเลียนแบบสิงสู่หน้าวิหาร ประกอบด้วยกระบิศิลาจารึกเป็นภาษาไทยล้านทุ่งนาดุ“ได้สร้างตุ๊เจ้าวิหารกับลายรอยเท้าลอกครั้น พุทธศก2470 โดยหมอบาสิงห์การมีชัยชนะ วัดสะแล่ง พระครูการมีชัยชนะลังกา วัดศรีอุดม ขุนจันทนทานุเหมือน กำนันท้องถิ่นมะเขือไม่คลาดเข้ายา และผู้เป็นใหญ่ความมีชัย กำนันชุมชนนิวาสสถานกลาง ได้มาชักจูงกลางเมืองก่อสร้างสิ้นค่าก่อสร้าง 3,000 รูปี บำเพ็ญกุศลฉลองเมื่อ พุทธศักราช2472”

Wat Phra Buddhabart Tak Pha

History: Wat Phra Buddhabart Tak Phaa, is a Royal monastery. The scenery is beautiful, the temple is located up on the mountain between Doi Mon Chang and Doi Cruaมันสมอง Along the way toward the temple entrance, you can see Vihan Jaturamook (พิหารจตุๆรมควันุข), which covers the Buddha Footprints and Phra That See-Khruba (พระบรมธาตุสี่ครูบา) on the Doi […]

ตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้า

ประวัติบุคคล : ตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้า อยู่ในสภาพระหว่างดอยม่อนหัสดีกับดักดอยวงศ์วาน นับหน้าถือตากักคุมตวาดครอบครองรอยเท้าสิ่งของอรหังภูมิหลังกดไว้ตรงๆแดนดินสถานที่จับวัตถาภรณ์จีวรลงมาแบน มีลายตารางบนบานผาหินที่หลงเชื่อว่าคือว่ารอยตากผ้าผ้าจีวรพระพุทธเจ้า ประวัติการณ์บอกดุ ครั้งพระพุทธเจ้าอยู่มายังแดนดินสุวรรณภูมิ ปฤษฎางค์จาริกและตอกพระสงฆ์ตีนที่แห่งกระยาเลย แล้ว เมื่ออยู่มาถึงบนต้นลานผาลาดเท (คือดินแดนฐานวัดรอยพระบาทตากผ้ายุคปัจจุบัน) สถานที่สถานที่ท่านทรงริเริ่มตั้งขึ้นพระทัยจะวางขว้างทสถูปเจดีย์ แล้วจึงทรงหยุดพักลดหย่อน หลังจากนั้นปันออกพระสงฆ์อานันท์จับยกมาจีวรจากไปตากบนบานศาลกล่าวเขาหินลาดเกือบกับดักที่กด แล้วดำรงอธิษฐานเหยียบตุ๊เจ้าตีนติดตั้งรอยเก็บบนบานเขาหินลาดตรงนี้ และตรัสคาดคะเนตวาดที่สถานที่ตรงนี้จักปรากฏชื่อว่า “รอยเท้าแบนพัตร”ได้มาเสนอวางตวาดที่สมัยพุทธกาล สมเด็จพระสงฆ์สัมมาสัมพุทธะเจ้านายได้ไปมาช่วยเวไนยคนในบริเวณสุวรรณภูมิ (ไทยในปัจจุบัน) ท่านได้ไปจรที่สถานที่แตกต่าง ๆ จวบจนไปถึงแดนดินตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้าแห่งตรงนี้ซึ่งดำรงฐานะเขาหินลาด แล้วจึงได้มาทรงอธิษฐานตอกรอยรอยเท้าลง ใน แห่งแห่งนี้ เพื่อเป็นที่ต้นสักการเชิดชูสิ่งของทั้งหมดเทวะด้วยกันมนุชบรรดาด้วยกันท่านคว้าตรัสจ่ายพระความเพลิดเพลิน หยิบยกผ้าจีวรจากไปตากบนบานศาลกล่าวผาลาดเท จวนเจียนแดนดินที่ประทับตรา ซึ่งดำรงอยู่เป็นลายจางอยู่ เพราะฉะนี้ ตรวจวัดนี้แล้วจึงได้ชื่อว่า “ตรวจวัดรอยพระบาทแบนพัตร” เข้าตอนนี้

หมู่บ้านหัตถกรรมคฤหาสน์ที่ดอนสาธารณะ

ประวัติส่วนตัว : เรือนที่สูงสาธารณะครอบครองแหล่งผลิตการงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายถักมือรายใหญ่กับเป็นที่รู้จักจังที่สุดแห่งหนเอ็ดสิ่งของแดน ฐานอยู่ณตำบลรอก อำเภอป่าซาง แม้ว่าโหรงเหรงมนุษย์มากที่จะรู้จักมักจี่จรดพงศาวดารความเป็นมาอันช้านานกระทั่ง 200ปีของเรือนดอนสาธารณะกับการทอภูษาด้วยมือชิ้นเลื่องลือแหล่งที่อยู่คู่วิถีชีวิตลงมาตั้งแต่เริ่มแรก แรกเริ่มเดิมทีคฤหาสน์ที่ดอนสาธารณะชื่อ หมู่บ้านกอไม้ค้ำน ครอบครองหมู่บ้านชาวยองๆแห่งหนย้ายถิ่นมาจากนครเแม่ชียงรุ้งกินน้ำสรรพสิ่งแคว้นทวาทศแจกท้องนาณจีนช่วงล่างแห่งทำการค้าพฤษภทำการค้าควายมาก่อนกำหนด ภายหลังณเวลาพระเป็นเจ้ากาวิละได้มาต้อนผู้คนจากนครยองๆประเทศพม่าเข้ามาตั้งบ้านเรือนแห่งเขตเมืองลำพูนตั้งบ้านบ้าน”ดองฮโกงตอมขี้ข้า” เพื่อบูรณะบูรณะนครภายหลังรกเรื้อขนมจากการทำสงครามกับสหภาพพม่า

หมวดทอผ้าย้อมสีธรรมชาติที่อยู่หนองนางเงือก

ประวัติส่วนตัว : ชาวหนองน้ำนางเงือกมีบรรพบุรุษเป็นชาวยอง จากดินแดนสิบสองแจกทุ่งนา อพยพมาตั้งภูมิลำเนาที่ที่ราบลุ่มแม่น้ำทา อำเภอวนาลีซาง ณระยะพรรษา พุทธศก 2348-2356 ตรงกับยุคพระผู้เป็นเจ้ากาวิละ ชาวยองแห่งหนย้ายถิ่นมาแรกมีเก็ง 5 ครัวเรือน เข้าสถิตดินแดนรอบๆนิวาสสถานหนองเงือกในที่ช่วงปัจจุบัน เพราะว่าประกอบด้วยหนองสิงสู่ทางด้านบูรพาสิ่งของหมู่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยตาน้ำแห่งหนเป็นอาทิกำเนิดของสายธารเหมืองกลางๆมีปัญหากล่าวขานกักคุมถัดจากนั้นดุประกอบด้วยพญางู (ภาษาถิ่นเรียกดุ นางเงือก) ขนาดใหญ่เท่าตาลดำรงอยู่ร่างกายขึ้นลงมาแห่งหนหนองน้ำตรงนี้ คนวงในหมู่บ้านแล้วก็เรียกหมู่บ้านนี้ว่า “หมู่บ้านหนองนางเงือก”

Mae Wang Saan Resevoir

History: Mae Wang Saan Reservoir Ecotourism, this area is a resting place with fresh air, beautiful scenery, panoramic views of the reservoir and surrounding mountainsมันสมอง Relax in the house to enjoy the atmosphereมันสมอง Enjoy delicious food with a cool breeze blowing over the waters of this reservoir.

อ่างเก็บน้ำชนนีมนทิรส้าน

ประวัติ : อ่างเก็บน้ำชนนีมณเฑียรส้าน ท้องที่เมืองสถูป อำเภอวนาลีซาง ไกลจากที่ว่าการอำเภอพนาไม้ซางเจียรติดสอยห้อยตามทางหลวงเลขลำดับ 106 คาด 13 กม. ระหว่างหลักกิโลเมตรสถานที่ 30 และ 31 จรดทางแยกเข้าไปนิวาสสถานโป่งรู เข้ากะ 4 กม.จดอ่างเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำ หนึ่งแห่งแผนการเจริญพื้นที่ลุ่มน้ำชนนีอาว สาเหตุจากพระราชดำริ ประกอบด้วยทิวทัศน์สวยหรูมองเห็นดอยรายรอบ มีเรือนแพปันออกตากอากาศ สามารถลงเม็ดกับกางเต็นท์คว้า เพราะแบ่งออกนักเที่ยวพักผ่อนกับประกอบด้วยห้องอาหารกลางลำธารกับมีทัศนียภาพสถานที่สวยงาม ร้านอาหารหมดจดไม่อยู่ในที่เขตเมือง หรือว่าเขตชุมชน ประกอบด้วยทัศนียภาพสวยหรูเห็นดอยล้อมรอบ มีเหย้ามีเรือนแพแบ่งออกพักผ่อน สมรรถลงเม็ดกับถ่างเต็นท์ได้มา

ตรวจวัดธนูีที่สูงชัย

ชีวประวัติ : คฤหาสน์ธนูีที่สูงชัยชนะมีประวัติการตั้งถิ่นฐานมาคาดคะเน ชันษา พุทธศักราช 2349 ดำรงฐานะหมู่บ้านขนาดเล็กประกอบด้วยครัวเรือน ปริมาณ 15 –30 ครัวเรือน จากคำกล่าวสรรพสิ่งผญ.กับผู้สูงวัยณหมู่บ้านได้ให้เรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวประวัติณหมู่บ้านธนูีที่สูงความมีชัยแหวแห่งสมัยก่อนตุ้ยนุ้ยเฮือง จากหมู่บ้านสันจมูกวนาลีเลียง จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ โคจรควบหัตถีมาดินแดนที่รองรับของหมู่บ้านครบครันผู้ติดตาม มองเห็นพื้นที่แดนดินดังกล่าวเป็นที่สูง อุทกภัยเปล่าจดเหมาะอายุมากการก่อสร้างชุมรุม จึงได้มาจัดทำห้างร้านเพื่ออาศัยอยู่ครู่เดียว ถัดจากนั้นคว้ามีคนธรรมดา ที่สถิตสิงสู่ชายแม่ธารกวง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำประกอบด้วยอุทกภัยมองเห็นแหว บริเวณที่ตั้งสรรพสิ่งหมู่บ้านน้ำท่วมเปล่าจด แล้วก็ย้ายถิ่นลงมาสิงสู่แดนดินดังที่กล่าวมาแล้ว จึงก่อเกิดครอบครองชุมชนหมู่บ้านกับคว้าเรียกชื่อหมู่บ้านณสมัยตรงนั้นตวาด “นิวาสสถานสันดอนจิตใจ”บ้างก็เรียกหาว่า“สลีดอนชัยชนะ”กับถัดจากนั้นได้มาโด่งดังหมู่บ้านอย่างเป็นทางการแหว “หมู่บ้านธนูีที่สูงการมีชัยชนะ หมวดแห่งหน 8 ชุมชนเล็กๆนิวาสสถานธิ อำเภอนิวาสสถานธิ บุรีลำถม” ซึ่งกอปรด้วยป๊ทรวงนิวาสสถานเพราะฉะนี้ ป๊อกนิวาสสถานใหม่กู่วนาลีลาน ป๊อกสันจมูกมะหนอ ป๊ใจดั้งจมูกขวาง ป๊ทรวงสันจมูกใจ ป๊ทรวงขม่อมท้องนา ป๊ใจรวมทู่ เพราะว่าคนวงในที่โล่งแจ้งส่วนมากเป็นคนท้องถิ่น เอ่ยปากภาษาคำเมืองด้วยกันประกอบด้วยนามสกุลเสาถือเอาว่า “เจริญการมีชัยชนะ”

Wat Wat Pra Kong Ruesi

History: Wat Phra Kong Ruesi, originally known as Wat Appat Tharam, was built during Queen Cham Thewi reign over the kingdom of Haripunchai. It was created to dedicate to the monks from Lungkawi. The place was used for residence and Buddhist practicing for monks. It is also the place that contains the amulet named Phra […]

พิพิธภัณฑ์สถานที่ชาติเตียนหริภุญไชย

ประวัติบุคคล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ธานีลำพูน ดำรงฐานะสถานที่หยุดรวมเล่มของโบราณและศิลปวัตถุแห่งหนได้มาจากวัดสำคัญและอู่โบราณคดีในที่บุรีจังหวัดลำพูน จำนวนรวมกว่า 3,000 อัน ไม่ผิดริเริ่มตั้งขึ้นลงมาเพื่อเป็นที่ประมวญและจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่ประกอบด้วยอยู่เลิศในที่เมืองเหนือสิ่งของไทยอีกที่เอ็ด เพราะว่ายิ่งใหญ่อำลงมาตย์โท พระยาราชนกุลวิบูลย์จงรักภักดี (อวบ เปาโรหิต) สาสมุหเทศาภิบาล นครฉำฉา เป็นผู้บุกเบิกงานตรงนี้มาตั้งแต่พ.ศ. 2470 ซึ่งณช่วงเวลานั้น เริ่มประกอบด้วยงานมองเห็นคุณค่าสรรพสิ่งมรดกทางวัฒนธรรมมากขึ้น กิจจานุกิจพิพิธภัณฑสถาน ซึ่งเริ่มขนมจากณตุ๊นฤปเวศม์ในที่ยุคตุ๊เจ้าพระบาทสมเด็จตุ๊เจ้าจอมเกล้าเจ้าสิงสู่หัว จนกระทั่งได้ถลกเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อประชาชนขึ้นไปเป็นครั้งแรกแห่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพุทธศักราช 2417 มีผลแจกก่อกำเนิดพิพิธภัณฑสถานอื่นๆขึ้นไปอีกหลายสถานที่ในประเทศ รวมทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ที่นี้