ตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้า
ประวัติบุคคล : ตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้า อยู่ในสภาพระหว่างดอยม่อนหัสดีกับดักดอยวงศ์วาน นับหน้าถือตากักคุมตวาดครอบครองรอยเท้าสิ่งของอรหังภูมิหลังกดไว้ตรงๆแดนดินสถานที่จับวัตถาภรณ์จีวรลงมาแบน มีลายตารางบนบานผาหินที่หลงเชื่อว่าคือว่ารอยตากผ้าผ้าจีวรพระพุทธเจ้า ประวัติการณ์บอกดุ ครั้งพระพุทธเจ้าอยู่มายังแดนดินสุวรรณภูมิ ปฤษฎางค์จาริกและตอกพระสงฆ์ตีนที่แห่งกระยาเลย แล้ว เมื่ออยู่มาถึงบนต้นลานผาลาดเท (คือดินแดนฐานวัดรอยพระบาทตากผ้ายุคปัจจุบัน) สถานที่สถานที่ท่านทรงริเริ่มตั้งขึ้นพระทัยจะวางขว้างทสถูปเจดีย์ แล้วจึงทรงหยุดพักลดหย่อน หลังจากนั้นปันออกพระสงฆ์อานันท์จับยกมาจีวรจากไปตากบนบานศาลกล่าวเขาหินลาดเกือบกับดักที่กด แล้วดำรงอธิษฐานเหยียบตุ๊เจ้าตีนติดตั้งรอยเก็บบนบานเขาหินลาดตรงนี้ และตรัสคาดคะเนตวาดที่สถานที่ตรงนี้จักปรากฏชื่อว่า “รอยเท้าแบนพัตร”ได้มาเสนอวางตวาดที่สมัยพุทธกาล สมเด็จพระสงฆ์สัมมาสัมพุทธะเจ้านายได้ไปมาช่วยเวไนยคนในบริเวณสุวรรณภูมิ (ไทยในปัจจุบัน) ท่านได้ไปจรที่สถานที่แตกต่าง ๆ จวบจนไปถึงแดนดินตรวจวัดรอยพระบาทตากผ้าแห่งตรงนี้ซึ่งดำรงฐานะเขาหินลาด แล้วจึงได้มาทรงอธิษฐานตอกรอยรอยเท้าลง ใน แห่งแห่งนี้ เพื่อเป็นที่ต้นสักการเชิดชูสิ่งของทั้งหมดเทวะด้วยกันมนุชบรรดาด้วยกันท่านคว้าตรัสจ่ายพระความเพลิดเพลิน หยิบยกผ้าจีวรจากไปตากบนบานศาลกล่าวผาลาดเท จวนเจียนแดนดินที่ประทับตรา ซึ่งดำรงอยู่เป็นลายจางอยู่ เพราะฉะนี้ ตรวจวัดนี้แล้วจึงได้ชื่อว่า “ตรวจวัดรอยพระบาทแบนพัตร” เข้าตอนนี้
หมู่บ้านหัตถกรรมคฤหาสน์ที่ดอนสาธารณะ
ประวัติส่วนตัว : เรือนที่สูงสาธารณะครอบครองแหล่งผลิตการงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายถักมือรายใหญ่กับเป็นที่รู้จักจังที่สุดแห่งหนเอ็ดสิ่งของแดน ฐานอยู่ณตำบลรอก อำเภอป่าซาง แม้ว่าโหรงเหรงมนุษย์มากที่จะรู้จักมักจี่จรดพงศาวดารความเป็นมาอันช้านานกระทั่ง 200ปีของเรือนดอนสาธารณะกับการทอภูษาด้วยมือชิ้นเลื่องลือแหล่งที่อยู่คู่วิถีชีวิตลงมาตั้งแต่เริ่มแรก แรกเริ่มเดิมทีคฤหาสน์ที่ดอนสาธารณะชื่อ หมู่บ้านกอไม้ค้ำน ครอบครองหมู่บ้านชาวยองๆแห่งหนย้ายถิ่นมาจากนครเแม่ชียงรุ้งกินน้ำสรรพสิ่งแคว้นทวาทศแจกท้องนาณจีนช่วงล่างแห่งทำการค้าพฤษภทำการค้าควายมาก่อนกำหนด ภายหลังณเวลาพระเป็นเจ้ากาวิละได้มาต้อนผู้คนจากนครยองๆประเทศพม่าเข้ามาตั้งบ้านเรือนแห่งเขตเมืองลำพูนตั้งบ้านบ้าน”ดองฮโกงตอมขี้ข้า” เพื่อบูรณะบูรณะนครภายหลังรกเรื้อขนมจากการทำสงครามกับสหภาพพม่า
หมวดทอผ้าย้อมสีธรรมชาติที่อยู่หนองนางเงือก
ประวัติส่วนตัว : ชาวหนองน้ำนางเงือกมีบรรพบุรุษเป็นชาวยอง จากดินแดนสิบสองแจกทุ่งนา อพยพมาตั้งภูมิลำเนาที่ที่ราบลุ่มแม่น้ำทา อำเภอวนาลีซาง ณระยะพรรษา พุทธศก 2348-2356 ตรงกับยุคพระผู้เป็นเจ้ากาวิละ ชาวยองแห่งหนย้ายถิ่นมาแรกมีเก็ง 5 ครัวเรือน เข้าสถิตดินแดนรอบๆนิวาสสถานหนองเงือกในที่ช่วงปัจจุบัน เพราะว่าประกอบด้วยหนองสิงสู่ทางด้านบูรพาสิ่งของหมู่บ้าน ซึ่งประกอบด้วยตาน้ำแห่งหนเป็นอาทิกำเนิดของสายธารเหมืองกลางๆมีปัญหากล่าวขานกักคุมถัดจากนั้นดุประกอบด้วยพญางู (ภาษาถิ่นเรียกดุ นางเงือก) ขนาดใหญ่เท่าตาลดำรงอยู่ร่างกายขึ้นลงมาแห่งหนหนองน้ำตรงนี้ คนวงในหมู่บ้านแล้วก็เรียกหมู่บ้านนี้ว่า “หมู่บ้านหนองนางเงือก”
Mae Wang Saan Resevoir
History: Mae Wang Saan Reservoir Ecotourism, this area is a resting place with fresh air, beautiful scenery, panoramic views of the reservoir and surrounding mountainsมันสมอง Relax in the house to enjoy the atmosphereมันสมอง Enjoy delicious food with a cool breeze blowing over the waters of this reservoir.
อ่างเก็บน้ำชนนีมนทิรส้าน
ประวัติ : อ่างเก็บน้ำชนนีมณเฑียรส้าน ท้องที่เมืองสถูป อำเภอวนาลีซาง ไกลจากที่ว่าการอำเภอพนาไม้ซางเจียรติดสอยห้อยตามทางหลวงเลขลำดับ 106 คาด 13 กม. ระหว่างหลักกิโลเมตรสถานที่ 30 และ 31 จรดทางแยกเข้าไปนิวาสสถานโป่งรู เข้ากะ 4 กม.จดอ่างเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำ หนึ่งแห่งแผนการเจริญพื้นที่ลุ่มน้ำชนนีอาว สาเหตุจากพระราชดำริ ประกอบด้วยทิวทัศน์สวยหรูมองเห็นดอยรายรอบ มีเรือนแพปันออกตากอากาศ สามารถลงเม็ดกับกางเต็นท์คว้า เพราะแบ่งออกนักเที่ยวพักผ่อนกับประกอบด้วยห้องอาหารกลางลำธารกับมีทัศนียภาพสถานที่สวยงาม ร้านอาหารหมดจดไม่อยู่ในที่เขตเมือง หรือว่าเขตชุมชน ประกอบด้วยทัศนียภาพสวยหรูเห็นดอยล้อมรอบ มีเหย้ามีเรือนแพแบ่งออกพักผ่อน สมรรถลงเม็ดกับถ่างเต็นท์ได้มา
ตรวจวัดธนูีที่สูงชัย
ชีวประวัติ : คฤหาสน์ธนูีที่สูงชัยชนะมีประวัติการตั้งถิ่นฐานมาคาดคะเน ชันษา พุทธศักราช 2349 ดำรงฐานะหมู่บ้านขนาดเล็กประกอบด้วยครัวเรือน ปริมาณ 15 –30 ครัวเรือน จากคำกล่าวสรรพสิ่งผญ.กับผู้สูงวัยณหมู่บ้านได้ให้เรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวประวัติณหมู่บ้านธนูีที่สูงความมีชัยแหวแห่งสมัยก่อนตุ้ยนุ้ยเฮือง จากหมู่บ้านสันจมูกวนาลีเลียง จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ โคจรควบหัตถีมาดินแดนที่รองรับของหมู่บ้านครบครันผู้ติดตาม มองเห็นพื้นที่แดนดินดังกล่าวเป็นที่สูง อุทกภัยเปล่าจดเหมาะอายุมากการก่อสร้างชุมรุม จึงได้มาจัดทำห้างร้านเพื่ออาศัยอยู่ครู่เดียว ถัดจากนั้นคว้ามีคนธรรมดา ที่สถิตสิงสู่ชายแม่ธารกวง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำประกอบด้วยอุทกภัยมองเห็นแหว บริเวณที่ตั้งสรรพสิ่งหมู่บ้านน้ำท่วมเปล่าจด แล้วก็ย้ายถิ่นลงมาสิงสู่แดนดินดังที่กล่าวมาแล้ว จึงก่อเกิดครอบครองชุมชนหมู่บ้านกับคว้าเรียกชื่อหมู่บ้านณสมัยตรงนั้นตวาด “นิวาสสถานสันดอนจิตใจ”บ้างก็เรียกหาว่า“สลีดอนชัยชนะ”กับถัดจากนั้นได้มาโด่งดังหมู่บ้านอย่างเป็นทางการแหว “หมู่บ้านธนูีที่สูงการมีชัยชนะ หมวดแห่งหน 8 ชุมชนเล็กๆนิวาสสถานธิ อำเภอนิวาสสถานธิ บุรีลำถม” ซึ่งกอปรด้วยป๊ทรวงนิวาสสถานเพราะฉะนี้ ป๊อกนิวาสสถานใหม่กู่วนาลีลาน ป๊อกสันจมูกมะหนอ ป๊ใจดั้งจมูกขวาง ป๊ทรวงสันจมูกใจ ป๊ทรวงขม่อมท้องนา ป๊ใจรวมทู่ เพราะว่าคนวงในที่โล่งแจ้งส่วนมากเป็นคนท้องถิ่น เอ่ยปากภาษาคำเมืองด้วยกันประกอบด้วยนามสกุลเสาถือเอาว่า “เจริญการมีชัยชนะ”
วัดธนูีที่สูงชัยชนะ
ประวัติบุคคล : นิวาสสถานศรีที่ดอนชัยชนะมีประวัติการตั้งถิ่นฐานลงมาประมาณ พรรษา พุทธศก 2349 เป็นหมู่บ้านขนาดย่อมประกอบด้วยครอบครัว จำนวน 15 –30 ครัวเรือน ขนมจากคำพูดสรรพสิ่งผู้ใหญ่บ้านด้วยกันผู้สูงวัยณหมู่บ้านคว้าให้ข้อปลีกย่อยเกี่ยวข้องประวัติส่วนตัวที่หมู่บ้านธนูีดอนชัยว่าณสมัยก่อนอุ้ยเฮโลือง ขนมจากหมู่บ้านดั้งป่าเลียง ธานีเชียงใหม่ ตะเวนควบหัสดีมาแดนดินที่ตั้งสรรพสิ่งหมู่บ้านพร้อมผู้ติดสอยห้อยตาม มองเห็นพื้นที่ดินแดนดังกล่าวเป็นที่สูง น้ำหลากไม่จดพอเหมาะอายุมากการก่อสร้างที่อาศัย จึงได้มาจัดทำร้านค้าเพื่อจะอยู่อาศัยชั่วครู่ ภายหลังได้มาประกอบด้วยคนเดินดิน สถานที่สิงสถิตสิงสู่ชายแม่ธารกจุด ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำมีอุทกภัยเห็นดุ แดนดินฐานสิ่งของหมู่บ้านน้ำหลากไม่จด จึงย้ายถิ่นมาสิงสู่ดินแดนดังที่กล่าวมาแล้ว จึ่งก่อกำเนิดครอบครองชุมชนหมู่บ้านกับได้เรียกขานหมู่บ้านณกาลเวลานั้นว่า “บ้านหลังเต่าอารมณ์ทางใจ”บ้างก็เรียกแหว“สลีที่ดอนชัยชนะ”ด้วยกันภายหลังคว้าโด่งดังหมู่บ้านอย่างเป็นทางการดุ “หมู่บ้านธนูีที่สูงชัยชนะ หมวดสถานที่ 8 ตำบลคฤหาสน์ธิ อำเภอนิวาสสถานธิ ธานีลำพอก” ซึ่งประกอบอีกด้วยป๊ทรวงนิวาสสถานเหตุฉะนี้ ป๊ใจคฤหาสน์นวชาตร้องวนาลีลาน ป๊ใจดั้งมะนะ ป๊ทรวงอกดั้งขวาง ป๊ทรวงอกดั้งอารมณ์ทางใจ ป๊ทรวงศรีษะทุ่งนา ป๊ใจทดไม่คม เพราะวงในที่สาธารณะส่วนมากเป็นคนท้องถิ่น พูดภาษาคำเมืองและมีชื่อสกุลหลักเขตรวมความว่า “เจริญชัย”
Wat Phra That Doi Hang Bat
History: Wat Phra That Doi Hang Bat, the founder and the construction date remain unknownมันสมอง Legend has it that the Buddha, during his lifetime, paid a visit to the hill where the temple would later be founded and prepared his alms-bowl for a daily alms-round. In the local dialect, the act of preparing an alms-bowl […]
ตรวจวัดดั้งป่านกกระยางสาธารณะ
ชีวประวัติ :เป็นวัดที่ประกอบด้วยความงดงามโดยเฉพาะวิหารคว้าติดตลาด 1 แห่ง 10 พิหารเพริศของประเทศไทยเช่นกัน พระสงฆ์วิหารพระสงฆ์เขียวแม่น้ำโขง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2536 โดยชดใช้เครื่องไม้เครื่องมือเสาแมกตะเคียนทอง ไม้แดง จากแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สหภาพพม่า และประเทศไทย พระสงฆ์ซินแซบาอินทรเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างกับดีไซน์ลวดลายพื้นเมือง ผสมผสานระหว่างสมัยโบราณกับดักล้ำยุค พิหารพระเป็นเจ้าเหม็นเขียวแม่น้ำโขงครั้นจ้องจากข้างหน้าจักประกอบด้วยหลังคา 5 ชั้นประกอบด้วยช่อฟ้า 5 ร่างกายคือพระเป็นเจ้า 5 ท่าน แถวหลังอีกตรัยคือข้อปฎิบัติฌานความรู้ หมายถึงวัตรของอรหัง เพื่อจะไปเข้าสู่ตุ๊เจ้านิพพาน ใบหน้า 5 รวมปฤษฎางค์ 3 ดำรงฐานะ 8 หมายถึงจำต้องทำตามมัชฌิมาปฏิปทาลงความว่ามารค 8 ได้มาธรรมพระมัชฌิมา มัชฌิมาปฏิปทาลงความว่า 9 ดำรงฐานะอรหัตผล นอกจากนี้ภายในพิหารตุ๊เขียวโขงดำรงฐานะที่วางตุ๊พระพุทธอัญญรัตติกาลพี่เลี้ยงเด็กควานนาทีธนูีหริภุญการมีชัยชนะ หรือว่าตุ๊เจ้าเหม็นเขียวโขง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักขนมจากหินแม่น้ำโขง เรือนที่สูงใหญ่ทิวา ที่จวนเจียนกับดักด้าวลาว ใครที่ได้โอกาสได้เจียรจังหวัดลำพูน ก็อย่าลืมที่จะแวะจากไปจ้องความงดงามของสงฆ์สันไพรนกกระยางหลวงกักคุมนะคะ
พิพิธภัณฑสถานตรวจวัดต้นแก้ว
ประวัติ : พิพิธภัณฑสถานวัดต้นแก้ว ไม่ก็ พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ชาวยองๆ จัดตั้งขึ้นเพราะว่าพระครูกว้างขวางธีรเธอเถรตรวจวัดต้นแก้ว เมื่อพรรษาพ.ศ. 2530 เพราะริเริ่มจากการหยุดสะสมโบราณวัตถุ ที่เป็นข้าวของสัมภาระในที่วิถีชีวิตทุกวัน สรรพสิ่งชาวยองที่อดีต จนทีหลังเริ่มมีผู้ประกอบด้วยความคิดเทอดทูน นำข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่มาละวางเติบโต แล้วก็ได้จัดทำครอบครองพิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว ในพิพิธภัณฑ์มีตึกที่ใช้จัดแสดง 2 หลัง โรงเรือนข้างหลังเริ่มแรกสร้างขึ้นนวชาต กับหยุดรวมเล่มเรื่องราวมุขพุทธศาสนาด้วยกันข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นต้นว่า พุทธปฏิมากรไม้ พุทธปฏิมาเนื้อดินเผา กรณฑ์พระธรรม เครื่องเงิน โตก เครื่องจักสาน และสิ่งของข้าวของเครื่องใช้แห่งชดใช้ในที่การทอภูษา ซึ่งดำรงฐานะของแห่งใช้คืนห้ามในที่ชีวิตประจำวันสรรพสิ่งคนเมืองยองตั้งแต่ครั้งอดีต ด้านโรงเรือนสถานที่ 2 ครอบครองอาคารค่าคบไม้หลังเก่าแก่ แสดงเกี่ยวกับเครื่องตาลิปัตร และพระพิมพ์รุ่นก่อน พระพิมพ์ตระกูลต่าง ๆ ที่มีชื่อของจังหวัดลำพูนเอาไว้ยิ่ง เช่น พระพ้นไปตุ๊เจ้าคงทน ตุ๊เจ้าเลื่องลือ ตุ๊เจ้าหลีกเลี่ยง ตุ๊เจ้าเปิม พระสงฆ์ทวาทศ ตุ๊เจ้าหัก เป็นอาทิ ยิ่งไปกว่านี้ยังใช้ครอบครองสถานที่กอปรแบบแผนสืบเสาะชะตาอีกด้วย ถือเอาเป็นอีกความพากเพียรหนึ่งของมนุชยองๆ แห่งอยากจักพิทักษ์ลักษณะเฉพาะของตนเอง ไว้พอให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติส่วนตัวภูมิหลัง กับสืบกันมาธรรมเนียมปฏิบัติที่บริสุทธ์ต่าง ๆถัดจาก